top of page
  • เพจของโค้ชแม่ต่ายค่ะ
  • 9e582e788b549c8bc310958d8222048f_icon
Search
  • Writer's pictureCoachTai Musicparent

Ep.410 การซื้อเปียโนเป็นการลงทุนหรือไม่


การซื้อเปียโนเป็นการลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนเช่นเดียวกับการลงทุนใน เพชรพลอย พระเครื่อง นาฬิกา กระเป๋าแบรนด์เนม ฯลฯ หรือไม่คะ

.

ถ้ากำลังมองหาเครื่องดนตรีที่เป็นการลงทุน เครื่องดนตรียี่ห้อดังก็เป็นการลงทุนที่สามารถได้รับผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อได้ค่ะ เปียโนยี่ห้อดังอย่าง Steinway & Sons หรือ ไวโอลิน Stradivarius เป็นเครื่องดนตรีที่รู้กันในวงการว่าถ้าใครมีไว้มันก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า

.

เครื่องดนตรีสองยี่ห้อนี้ถ้าเปรียบก็ประหนึ่ง Rolls-Royce ของวงการเครื่องดนตรีค่ะ ราคาเครื่องดนตรีบางเครื่องไปถึงหลายล้าน เพราะคุณภาพและความขาดแคลนที่เครื่องดนตรียุคใหม่ไม่สามารถทำเลียนแบบได้ แต่เครื่องดนตรีก็เหมือนสินค้าอื่น ๆ ที่มีทั้งการลงทุนที่ได้กำไรและขาดทุน

.

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาเครื่องดนตรีให้ลูก ๆ ถ้าจะมองไปถึงตอนที่จะขายต่อไม่ให้ราคาตกมาก ต่ายแนะนำแบบนี้นะคะ

.

ช่วงที่เรียนดนตรีแรก ๆ ถ้ายังไม่แน่ใจว่าลูกเราจะเอาจริงไหม ถ้าซื้อมาเลย ก็กลัวเดี๋ยวลูกเลิกเล่นแล้วจะทำยังไงกับเครื่องดนตรี ช่วงแรกต่ายจะแนะนำให้ ‘เช่า’ ค่ะ 2 เครื่องดนตรีฮิตอย่างเปียโนและไวโอลินมีให้เช่าแน่นอน และบางร้านถ้าเราแน่ใจแล้วว่าเราจะซื้อ เราสามารถเอาค่าเช่าที่จ่ายไปแล้วมาเป็นส่วนลดบางส่วนในการซื้อเครื่องได้ด้วย

.

การเช่าทำให้เราไม่ต้องจ่าย fixed cost ก้อนใหญ่ในครั้งเดียว ต่ายมีเพื่อนที่เค้าซื้อรถ แต่ใช้วิธีเช่ารถ ซึ่งเค้ามองว่าการซื้อลดไม่ใช่การลงทุน เพราะรถที่ซื้อไปแล้วพอซื้อแล้วราคาตกเลยเกิด depreciation cost เค้าจึงใช้วิธีเช่ารถ และสามารถเปลี่ยนรุ่นเปลี่ยนยี่ห้อรถไปได้เรื่อย ๆ โดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินก้อนโต (ไม่นับว่าถ้าตองกู้เงินมาซื้อรถก็จะมี cost ของดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นอีก) รวมทั้งค่า maintenance รถต่าง ๆ อย่างค่าเช็คระยะ ภาษี ค่าประกัน ฯลฯ

.

ถ้าลูกเรียนไวโอลิน แนะนำให้เช่าแน่นอนค่ะ เพราะไวโอลินเป็นเครื่องดนตรีที่ต้องเปลี่ยนขนาดบ่อย ถ้าเราเรียนตอนเป็นเด็ก ตัวเล็กแขนสั้นจะให้ไวโอลินตัวเล็ก (สั้น) กว่าผู้ใหญ่ กว่าจะใช้ size เดียวกัผู้ใหญ่ได้ก็น่าจะเป็นวัยรุ่นแล้ว ถ้าเรียนไวโอลินตั้งแต่ 4-5 ขวบ ก็น่าจะเปลี่ยน size ไวโอลินไป 4-5 ครั้งแล้ว

.

ส่วนเปียโนยังมีทางเลือกในการซื้อเปียโนไฟฟ้าหรือเปียโนไม้มือสอง ถ้าจะเลือกซื้อเปียโนในบ้านเรา ถ้าจะไม่ให้ราคาตกมากต่ายแนะนำซื้อเปียโนญี่ปุ่น ถ้าระบุยี่ห้อไปเลยคือ Yamaha เป็นเปียโนที่ใช้กันแพร่หลายในประเทศไทย สาเหตุหนึ่งที่เปียโนญี่ปุ่นได้รับความนิยมในไทยคือ ประเทศไทยกับญี่ปุ่นมีสภาพอากาศโดยเฉพาะความชื้นใกล้เคียงกันมากกว่าแถบยุโรป ไม้ที่ใช้ทำเปียโนจึงเหมาะกับสภาพอากาศและการดูแลรักษาในบ้านเรามากกว่าเปียโนยุโรป

.

จากประสบการณ์ต่ายเคยซื้อเปียโน Yamaha มือหนึ่งมาใช้คนเดียวดูแลรักษาตามสภาพการใช้งานในบ้าน คือเล่นคนเดียว (ไม่เหมือนเปียโนตามโรงเรียนที่จะมีการใช้งานหนักกว่า) และมีการจูนเปียโนเป็นระยะ เมื่อเวลาผ่านไป 20 ปี เปียโนยังสามารถขายได้เท่ากับราคาที่ซื้อมา (ในทางการลงทุนก็ถือว่าไม่ชนะอัตราเงินเฟ้อนะคะ ถ้าคิดแบบ NPV – net present value) (ต่ายไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับยี่ห้อที่กล่าวไปแต่อย่างใดนะคะ)

.

อีกประสบการณ์หนึ่งสำหรับเปียโนอีกหลังที่เป็นเปียโนญี่ปุ่นเหมือนกันแต่ไม่ใช่ยี่ห้อที่เห็นกันทั่วไป ต่ายซื้อมาเป็นเปียโนมือสองเมื่อผ่านไป 30 ปีราคาขายลดลงไปกว่า 80% ถ้าเป็นรถนี่ก็แทบจะขายซากแล้วค่ะ นึกถึงอารมณ์เราซื้อรถญี่ปุ่น พอขายต่อด้วยจำนวนปีที่ใช้งานมาอย่างเหมาะสมก็น่าจะพอขายได้ราคาบ้าง แต่ถ้าซื้อรถจีนนี่ราคาตกฮวบแน่นอนถ้าขาย

.

อีก tip นึงที่อยากให้ไว้คือ ปัจจัยนึงที่มีผลต่อราคาขายคืออายุของเปียโน ถ้าเราซื้อเปียโนมือสองเราก็ต้องอยากรู้ว่าเปียโนที่เราซื้อมาอายุเท่าไรแล้วจะมีอายุใช้งานอีกเท่าไร เปียโนจะมี serial number (เหมือนเลขตัวถังรถ) เวลาเปิดฝาเปียโนจะมีเลขหลายหลัก เราสามารถเอาเลขนี้ไปค้นใน google ได้ว่า serial number นี้ของยี่ห้อนี้อายุกี่ปี และอาจทราบไปถึงข้อมูลแหล่งผลิตอีกด้วย

.

อย่างไรก็ดีการซื้อขายก็ขึ้นอยู่กับ demand และ supply และราคาก็ขึ้นอยู่กับ willingness to pay ค่ะ ถ้าให้ต่ายสรุปการซื้อเครื่องดนตรีไม่ใช่การลงทุนที่ได้ผลตอบแทนนะเงินเฟ้อแน่นอน (นอกจากเราจะมีเงินหลายล้านสามารถซื้อ Steinway & Sons หรือ Strad ได้) แต่ถ้าต้องซื้อแล้วส่วนนึงที่อยากจะให้พิจารณาคือราคาขายต่อที่ไม่ทำให้เราขาดทุนมากค่ะ

Comments


bottom of page