ต่ายอ่านหนังสือ 2 เล่มนี้ไปพร้อม ๆ กัน (ไม่ใช่มือซ้ายเล่มมือขวาเล่มนะคะ แต่อ่านสลับ ๆ กันไปตามอารมณ์ค่ะ) เป็น 2 เล่มที่อ่านไปด้วยกันอย่างกลมกล่อม หนังสือ 2 เล่มนี้เหมาะมากสำหรับผู้นำ และเหมาะสำหรับทุกคนเช่นกัน ถ้า concept ผู้นำ ไม่เท่ากับ หัวหน้า คนที่มีลูกน้องอาจจะไม่ใช่ผู้นำทุกคน และคนที่ไม่มีลูกน้องก็ไม่ได้แปลว่าเค้าไม่ใช่ผู้นำ 2 เล่มนี้เหมาะมากค่ะ
.
เราทุกคนเป็น leader ในตัวเองอยู่แล้ว ถึงแม้เราจะไม่มีทีม แต่เราก็ lead ตัวเอง หรืออาจจะเป็นผู้นำทางความคิด เช่น เป็น idol เป็น role model ให้กับคนอื่น โดยที่เรารู้ตัวหรือไม่รู้ตัว
.
Think Again เป็นหนังสือที่ผู้นำหลายคนที่ต่ายเคารพและ inspire ต่ายแนะนำให้อ่าน ถ้าจะสรุปหนังสือเล่มนี้เนื้อหาหลักตามชื่อเลยค่ะว่าให้เราคิดอีกครั้ง สิ่งที่เราคิดครั้งแรกอาจจะไม่ถูกเสมอไป หรือไม่เหมาะสมกับทุกสถานการณ์ ยิ่งเรามีประสบการณ์มาก เราอาจจะเชื่อมั่นในประสบการณ์ของเรามากทำให้เราตัดสินใจผิดพลาดค่ะ และคนที่เป็นผู้นำก็ไม่ได้ถูกเสมอ ผู้นำก็สามารถ humble และรับฟังความคิดของคนอื่นได้ เราทุกคนก็มีสิ่งที่เราไม่รู้
.
ในหนังสือเล่าถึงนักคิด 4 ประเภทคือ
1.นักเทศน์ คือ คนที่เชื่อในความคิดของตัวเองอย่างแรงกล้า มีศรัทธาอย่างมาก ไม่ว่าเหตุผลใดก็ไม่สามารถล้มล้างความเชื่อนี้ได้
2.ทนายความ ความคิดต้องมีถูกผิดเสมอ จะตัดสินหาคนที่คิดผิดจากแนวทางของตัวเอง
3.นักการเมือง จะหาเสียงหาพรรคพวกมาสนับสนุนความคิดของตัวเอง
ประเภทที่ 4 ที่อยากให้เราคิดแบบนี้คือ นักวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะยังไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ จะพยายามหาความจริง ด้วยความสงสัยตลอด สามารถปรับความคิดได้เมื่อมีหลักฐานใหม่มาสนับสนุน
.
เราควรยอมให้ตัวเราเอง think again เปิดรับความรู้ใหม่ ๆ ยอมรับว่าเราก็ไม่ได้รู้ทุกเรื่อง
.
สำหรับหนังสือ The Invisible Leader เป็นหนังสือที่รวบรวมประสบการณ์ของคณเคน นครินทร์ ที่ได้พบปะพูดคุย สัมภาษณ์ ผู้นำหลากหลาย มารวบรวมและถอดบทเรียน เหมือนเราได้สรุปบทสัมภาษณ์ความเป็นผู้นำ สิ่งหนึ่งที่คุณเคนพบในผู้นำที่ประสบความสำเร็จคือ ผู้นำยุดนี้ไม่ใช่ผู้ที่ออกคำสั่งอย่างเดียว ผู้นำจะรับฟัง เปิดรับ ความคิดของคนในทีม ไม่ต้องลุกขึ้นมาสั่งอย่างเดียว เหมือนเป็นผู้นำล่องหน แต่คอยช่วยเหลือสมาชิกในทีม ซึ่งต่ายว่าตรงส่วนนี้ relate กับ Think Again นอกจากนี้จะยังได้เห็น case study จริงจากผู้นำหลายคนที่คุณเคนได้สัมผัสมาก
.
Reflect ของต่ายจากหนังสือ 2 เล่มนี้ คือ เราทุกคนมีบทบาทเป็นผู้นำ เรานำชีวิตตัวเราเอง ทักษะที่เราต้องมียุคนี้ คือยอมเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ ยอมรับว่าเราอาจจะไม่ได้รู้ทุกอย่าง สิ่งที่เราเคยรู้มาอาจจะผิด humble และพร้อมที่จะ unlearn และ relearn
#เลี้ยงลูกเล่นดนตรี, #โค้ชต่าย, #Musicparent, #Music, #Parent, #Coaching, #EF, #ดนตรี, #เลี้ยงลูก, #ปรึกษา, #พัฒนา, #StrengthFinder, #ค้นหาพรสวรรค์, #โค้ชแม่ต่าย, #StrengthCoach, #Gallup, #CoachTai
Comments