รถต่ายเพิ่งถูกชนมาค่ะ ตอนถูกชนลูกก็อยู่ในรถด้วย หลังเหตุการณ์เลยได้ถอดบทเรียนกับลูกว่าเรียนรู้อะไรกันบ้าง
.
เหตุการณ์คือต่ายกำลังจะเลี้ยวซ้ายเข้าโรงพยาบาล หักเลี้ยวไปแล้ว ได้ยินเสียง ‘ครืด’ ตอนนั้นรู้สึกว่ารถโดนชน ก็รีบดูก่อนว่ารถขวางไหม แล้วโทรหาประกัน
.
อีกฝ่ายเป็นมอเตอร์ไซค์ และคราวนี้โชคดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บ เมื่อประกันมา เคลียร์เหตุการณ์นี้จบ ต่ายก็ได้ถอดบทเรียนกับลูกค่ะ
.
ต่ายถามลูกว่าได้เรียนรู้อะไรจากที่แม่รถโดนชน ลูกตอบก่อนเลย อย่า panic ต่ายเลยถามว่าแม่ panic ไหม ลูกบอกแม่ panic ต่ายว่าลูกเก่งมากจับความรู้สึกแม่ได้ ต่ายรู้ตัวเลยว่ามือสั่น เพราะเพิ่งเปลี่ยนประกันรถ ประกันชื่ออะไรก็ไม่รู้ ต้องโทรเบอร์อะไรก็ไม่รู้
.
จริง ๆ ต่ายก็เรียนรู้เพิ่มขึ้นทุกครั้งที่มีการเกิดรถชน ย้อนนึกกลับไปถึงครั้งแรกที่รถชน โอยตื่นเต้นตกใจทำอะไรไม่ถูกแล้วก็ค่อย ๆ มีประสบการณ์เพิ่มขึ้น (ไม่ได้แปลว่าขับรถชนบ่อยนะคะ -_-“)
.
เลยได้โอกาสสอนทักษะเรื่องถ้ารถชนกับลูกดังนี้ค่ะ ถ้ารถชนให้ทำอย่างไร
1.อย่า panic
2.ถ้าเป็นไปได้ รีบถ่ายรูปรถตรงที่ชนในหลาย ๆ มุม พยายามถ่ายให้เห็นทะเบียนรถทั้ง 2 คัน (ถ้าโดนชนแล้วหนีให้พยายามรีบถ่ายทะเบียบรถคันที่หนี)
3.ย้ายรถไม่ให้เกะกะคันอื่นและปลอดภัย
4.โทรหาประกัน (อันนี้ตั้งสมมติฐานว่ารถบ้านเรามีประกันทุกคัน)
5.(อันนี้เพิ่มให้ลูก) บอกให้โทรหาพ่อหรือแม่ก่อน เพราะพ่อกับแม่มีประสบการณ์ขับรถมากกว่าจะช่วยประเมินสถานการณ์และแนะนำได้ และถ้าเป็นไปได้ จะรีบไปอยู่ด้วย
ที่เหลือก็ต้องตามหน้างานแล้วค่ะ ประกันจะช่วยเจรจาอย่างไร
และแม่ก็เน้นย้ำว่า step 0 คือขับรถทุกครั้งต้องพกใบขับขี่ ถ้าไม่มีใบขับขี่เราจะผิดทุกกรณี
.
ต่ายว่ารถชนก็มีข้อดี ได้ใช้เหตุการณ์จริงมามาสอนลูก ลูกจำได้บ้างไม่ได้บ้างแต่ก็เพิ่มประสบการณ์ค่ะ
.
และการเรียนรู้ไม่จำเป็นต้องมาจาก success story เท่านั้น เราเรียนรู้จากข้อผิดพลาดได้เช่นกันค่ะ
.
ถ้าใครมีประสบการณ์หรืออยากแชร์ตรงไหนเพิ่มเติม ยินดีนะคะ
Comments