top of page
Search
Writer's pictureCoachTai Musicparent

Ep.361 เราทุกคนล้วนรับผิดชอบตัวเอง




เราทุกคนล้วนเกิดมาเป็นปัจเจก มนุษย์เริ่มจากเกิดมาต้องพึ่งพิงผู้อื่น (dependent) สัตว์หลายชนิด เกิดมาก็สามารถอาศัยได้ด้วยตัวเอง ไม่มีพ่อแม่มาดูแล แต่คนเราถ้าไม่มีใครดูแลตอนเด็ก เราก็อยู่ไม่ได้

.

เมื่อเราเติบโตเริ่มเข้าสังคม เราบอกว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคม เราเริ่มพึ่งพาผู้อื่น (interdependent) และในท้ายที่สุด เราก็ต้องสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง (independent)

.

อยากชวนให้ลองทบทวนว่าเรามีความสัมพันธ์ในลักษณะพึ่งพิงกับใครบ้าง มีใครที่เราไว้ใจมากในบางเรื่อง ถ้าเป็นเรื่องนี้ให้คนนี้ทำไปเลย หรือเราพึ่งพิงทางภาวะอารมณ์ มีใครที่เราอยู่ด้วยแล้วเราสบายใจมาก สามารถอยู่ในภาวะทิ้งตัวได้เลย

.

ที่ชวนให้คิดเพราะว่าภาวะแบบนี้ถ้ามีมากเกินไปก็ไม่ได้เป็น healthy relationship นะคะ ลองนึกภาพว่าเราจะเป็นอย่างไรถ้าไม่มีคนนั้นอยู่แล้ว เราจะอยู่อย่างไร เราคงเคยเห็นข่าวคนที่ตรอมใจตายหลังจากที่คนรักเสียชีวิตไม่นาน

.

ต่ายค้นพบความสัมพันธ์แบบนี้ระหว่างแม่กับต่ายตอนที่ต่ายเรียนเรื่อง exploring my inner world ของ prh ภาวะนี้เรียกว่า fusion

.

ต่ายกับแม่มีความผูกพันกับมาก แม้ว่าต่ายกับแม่จะไม่สามารถสื่อสารกันได้แล้วเนื่องจากแม่เป็นอัลไซเมอร์ถึงระยะที่พูดคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว แต่ต่ายก็รู้สึกได้ถึงความรักของแม่ที่อยู่ในตัวต่าย

.

แม้กระทั่งความทรงจำต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ของต่ายก็อยู่กับแม่ แม่ชอบเล่าเรื่องในอดีตที่เกิดขึ้นให้ต่ายฟัง ต่ายไม่ค่อยจำเรื่องเหล่านี้ เพราะคิดว่าอยากรู้เมื่อไรก็มาถามแม่ได้ แต่พอแม่เป็นแบบนี้ ความทรงจำหลาย ๆ อย่างของต่ายก็หายไปพร้อมกับแม่

.

เมื่อแม่ไม่สามารถสื่อสารได้ อาการของโรคค่อย ๆ ทรุดลง สำหรับต่ายเหมือนแม่คนเดิมที่ต่ายรู้จักค่อย ๆ หายไป inner world ของต่ายค่อย ๆ broken แบบที่ต่ายเองก็ไม่รู้ตัว

.

ภาวะแบบนี้ถ้าภายในไม่เข้มแข็งหรือไม่มีวิธีการ heal ใจตัวเอง อาจทำให้เกิดโรค เช่น ซึมเศร้าได้ เมื่อต่ายรู้อย่างนี้ ต่ายเองก็ไม่ได้อยากให้ต่ายกับลูก bonding กันถึงขั้น fusion ที่อีกคนจะแหลกสลายหากอีกคนหนึ่งหายไป

.

ต่ายมีความเห็นว่า ‘เราทุกค้นล้วนรับผิดชอบตัวเอง’ ต่ายต้องเลี้ยงลูกให้เค้าสามารถรับผิดชอบตัวเองได้ เราต้องไม่เอาความรักมาเป็นเงื่อนไข เพราะเรารักเค้าแบบ unconditional love.

.

พ่อแม่ทุกคนก็คงไม่อยากเห็นลูกลำบาก แต่เราก็ต้องไม่ปกป้องลูกมากเกินไป จนไปขโมยโอกาสที่เค้าจะได้รู้จักความผิดหวัง ความเจ็บปวด เพื่อที่เค้าจะได้เรียนรู้การ cope ด้วยตัวของเค้าเอง หากเค้าเจอเหตุการณ์ผิดหวังที่ใหญ่กว่า เค้าก็จะมีภูมิต้านทานแล้ว

.

ถ้าหากเราเห็นลูกไม่อ่านหนังสือ เราเตือนแล้ว แล้วลูกเสียใจที่ได้คะแนนไม่ดี เราก็ปลอบค่ะ ไม่ต้องโทษตัวเอง เราได้ทำในส่วนที่เราทำได้แล้ว สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

.

และต่ายเองก็จะไม่เอาชีวิตไปผูกกับใครค่ะ ความสัมพันธ์ที่ healthy คือ คน 2 คนซึ่งสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองมาอยู่ร่วมกันเพื่อส่งเสริมสนับสนุนกัน ถ้าหากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเริ่มทิ้งตัว อีกฝ่ายก็จะกลายเป็น the แบก ค่ะ

.

เราควรมีชีวิตอยู่ด้วยความมรณานุไม่ประมาท พิจารณามรณานุสติ ไม่ว่าใครจะจากเราไป เราเสียใจได้ แต่เราก็จะรับผิดชอบชีวิตเราแล้วอยู่ต่อไปได้ค่ะ

Comments


bottom of page