การตั้งเป้าหมายประจำปี เป็นสิ่งที่ทุกบริษัททำกันช่วงปลายปีเพื่อ set direction สำหรับปีต่อ ๆ ไป
.
สำหรับระดับบุคคลก็มีการตั้งเป้าหมายส่วนบุคคลเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร
.
และหลาย ๆ คนก็จะมี personal goal เช่น new year resolution ว่าปีนี้อยากจะเปลี่ยนแปลงอะไร
.
ปีนี้ต่ายเองก็มีการเขียน future vision ค่ะ คือการเขียนบรรยายภาพแต่ละด้านตาม wheel of life ว่าเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2567 แต่ละด้านจะเป็นอย่างไร โดยใช้รูปประโยคแบบที่เกิดขึ้นแล้ว เช่น ด้านครอบครัว ต่ายเขียนว่าได้พาลูก ๆ ไปเล่นหิมะที่ Hokkaido ช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา
.
การที่เราเขียนและได้ประกาศให้เพื่อนเราฟัง ยิ่ง future vision ชัดเจนแค่ไหน ด้วยกฎแรงดึงดูดจะช่วยให้มีโอกาสที่มันจะเกิดจริงมากขึ้นเท่านั้น
.
เมื่อเขียน future vision อย่างชัดเจอแล้ว ต่ายก็ทำ future board คือ หาภาพที่มันจะ represent vision แต่ละด้านมารวมกันไว้ในกระดาษแผ่นเดียวกันแล้วแปะไว้ในที่ที่เราจะได้เห็นบ่อย ของต่ายเองแปะไว้ตรงโต๊ะทำงานที่นั่งทำงานแล้วมองเห็นทุกวันค่ะ เพื่อ remind & inspire ค่ะ
.
นอกจากนั้นแต่จะเขียน KPI ของ vision แต่ละด้านให้ชัดเจน เพื่อให้ต่ายรู้ว่าเป้าหมายคืออะไร ต่ายจะคอย track ว่าอยู่ตรงไหนของเป้าหมายแล้ว ใกล้จะถึงเป้าหมายแล้วหรือยัง
.
ต่ายเชื่อเรื่องการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน เป็นเป้าหมายที่ทรงพลังและ inspire ซึ่งช่วยให้ต่าย focus และบรรลุเป้าหมายได้
.
ยกตัวอย่าง 2 เหตุการณ์ที่ต่ายบรรลุเป้าหมายด้วยการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและด้วยความมุ่งมั่นของต่าย
.
ตอนต่ายเข้าทำงานครั้งแรก หลังจากเรียนจบ ต่ายตั้งเป้าหมายไว้เลยว่าตอนอายุ 30 อยากได้เงินเดือน xx บาท เป็นเป้าหมายที่ทั้งท้าทายและ inspire สำหรับต่าย along the way เงินเดือนต่ายก็ขึ้นมาเรื่อย ๆ on track ค่ะ ตอนอายุ 28 จากการทำงานบริษัทฝรั่งต่ายย้ายไปทำงาน NGO เป็นงานที่ fulfill มากแต่เงินเดือนลดค่ะ
.
ตอนนั้นดูเหมือนจะไม่ได้เงินเดือนตามเป้าตอนอายุ 30 แล้วค่ะ ทำงานนี้ได้ 1 ปี ต่ายก็ได้รับการติดต่อจาก head hunter ให้กลับไปทำงาน global company อีกครั้ง โดยให้เงินเดือนต่าย double ทำให้ต่ายได้เงินเดือนตามเป้าตอนอายุ 30 ค่ะ
.
อีกตัวอย่างคือตอนที่เรียนโค้ชแล้วจะสอบ credential ให้ได้ ACC (Associate Certified Coach) จาก ICF (International Coaching Federation) ซึ่งส่วนหนึ่งของการได้รับ credential นี้คือการเก็บชั่วโมงการโค้ชให้ครบ 100 ชั่วโมง ซึ่งต่ายได้ตั้งใจไว้ว่าจะสอบให้ได้โดยใช้เวลาให้น้อยที่สุด สำหรับต่ายคือ 8 เดือน ต่ายจึงมุ่งมั่นตั้งใจเก็บชั่วโมงและสอบให้ผ่านได้ภายใน 8 เดือนค่ะ
.
การตั้งเป้าหมาย เราชวนลูก ๆ มาตั้งเป้าหมายกันก็ได้นะคะ ต่ายจะชวนลูกมาทำ vision board สำหรับปีนี้กัน ลูกควักกระดาษออกมาแผ่นนึงแล้วบอกว่าแม่หนูมีเป้าหมายของปีนี้แล้ว (ลูกอายุ 9 ขวบ) แม่อ่านดูแล้วอึ้งไป ถามลูกว่าใครสอนให้เค้าทำ เค้าบอกเค้าเห็นเพื่อนมีสิ่งที่เค้าเขียนลงไป เค้าอยากมีบ้างเค้าเลยเขียนไว้เป็นเป้าหมายของปีนี้ ปีนี้ลูกเขียนเป้าก่อนแม่ค่ะ
.
สิ่งที่สำคัญไม่แพ้การตั้งเป้าหมายคือการ follow up ค่ะ เราควรตั้งว่าเราจะทบทวนความก้าวหน้าของแผนของเราสม่ำเสมอ เช่น ทุกเดือน เพื่อให้รู้ว่าเราทำได้ถึงไหนแล้ว ต้องมีการปรับแผนหรือไม่ หากไม่มีการทบทวนเลย จะมีโอกาสสูงที่เราจะไม่บรรลุเป้าหมายค่ะ
.
ปีนี้คุณพ่อคุณแม่ได้ตั้งเป้าหมายอะไรให้ตัวเองคะ
Komentarze