ต่ายอ่านหนังสือ 3 เล่มต่อกันโดยที่เนื้อหาในแต่ละเล่มเกี่ยวข้องกับการจัดการความสูญเสีย เป็นเรื่องบังเอิญจนน่าแปลกใจค่ะ
.
ถ้าเรียงตามลำดับจริง ๆ ต้องเริ่มจาก ‘คุณโทมาริ นักจัดบ้านด้วยการจัดใจ’ จะมีเรื่องของคนแก่ที่มีของในบ้านเยอะมาก ถ้าตายไปลูกหลานต้องเสียค่าจัดการของเยอะเลย ที่ญี่ปุ่นการจะทิ้งของไม่ได้ง่าย ๆ อย่างบ้านเรา ต้องเสียเงินให้เค้าขนของไปทิ้งให้ด้วย (ทำให้นึกถึงหนังสืออีกเล่มเรื่อง ‘Death Cleaning’ ของ Margareta Magnusson เรื่อง concept การเก็บบ้านของคนแก่สวีเดนที่จะไม่ทิ้งข้าวของให้เป็นภาระกับลูก) กับแม่ที่ทำใจไม่ได้ที่เสียลูกไปกับอุบัติเหตุ (รีวิวเล่มนี้ละเอียดใน Ep.347 จัดบ้านด้วยการจัดใจ)
.
เรื่องที่สองที่อ่านคือ ‘เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น’ ในเรื่องจะมีโต๊ะตัวนึงในร้านกาแฟที่คนที่ไปนั่งจะสามารถย้อนอดีตไปได้ แต่จะย้อนไปพบคนที่เคยพกันในร้ากาแฟนี้เท่านั้น และจะไปได้เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ที่กาแฟยังอุ่นอยู่ หากไม่รีบกลับ (โดยการดื่มกาแฟให้หมดแก้ว) ก่อนกาแฟจะหายอุ่น จะกลายเป็นวิญญาณเฝ้าโต๊ะตัวนั้นไป และการกลับไปยังอดีตจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วได้
.
ในเรื่องนี้มีเรื่องของพี่สาวที่หนีหน้าน้องสาวที่พยายามจะมาเจอตลอด เพราะคิดว่าจะมาตามให้กลับไปรับกิจการเรียวกังที่บ้าน ครั้งสุดท้ายที่พยายามหลบน้องสาว เมื่อน้องกลับไปก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต พี่สาวจึงอยากจะย้อนกลับไปคุยกับน้องสาวเป็นครั้งสุดท้าย ก็ได้พบว่าการที่น้องมาตามหาก็เพื่อจะมาทำความฝันของเธอให้เป็นจริงไปพร้อม ๆ กับการที่จะได้อยู่กับพี่สาว
.
และในเรื่องนี้ยังเฉลยตอนท้ายว่าไม่เพียงแต่จะย้อนเวลากลับไปในอดีตได้ แต่โต๊ะตัวนั้นยังพาไปในอนาคตได้ด้วย ทำให้คุณแม่ที่กำลังท้องและอาจจะต้องเสียชีวิตหากเธอตัดสินใจที่จะคลอดลูกเพราะเธอสุขภาพอ่อนแออยู่แล้ว ได้มีโอกาสพบและคุยกับลูกในอนาคต ตอนที่เธอไม่อยู่แล้ว
.
เรื่องที่สาม ‘ที่ที่ดีที่สุดในโลกอยู่ตรงนี้’ เป็นเรื่องของร้านกาแฟเช่นกัน เป็นร้านกาแฟของนักมายากลที่มีโต๊ะทั้งหมด 6 ตัวและแต่ละตัวก็มีมนต์วิเศษเมื่อเรานั่งโต๊ะแต่ละตัว หนังสือดำเนินเรื่องด้วยชีวิตของหญิงสาวที่เพิ่งสูญเสียทั้งคุณพ่อและคุณแม่ไปในอุบัติเหตุคราวเดียวกัน เธอหมดกำลังใจและเกือบจะคิดสั้น ด้วยมนต์วิเศษในร้านกาแฟแห่งนี้ช่วยให้เธอค่อย ๆ เยียวยาหัวใจ เธอได้เรียนรู้ว่า ปัจจุบันไม่มีอยู่จริง เมื่อเราคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วก็คืออดีต เมื่อเราคิดถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นสิ่งนั้นก็คืออนาคต สิ่งที่อยู่ในปัจจุบันคือความสุข การที่อยู่ในสภาพแวดล้อมเดิม ๆ ที่มีมองไปทางไหนก็ทำให้นึกถึงพ่อแม่ เธอจึงตัดสินขายบ้าน และเธอก็ยังได้เปิดใจให้กับความรักครั้งใหม่ และ move on ต่อไป
.
เรื่องที่สี่ คือ ‘ศูนย์รับฝากความเสียใจ’ ศูนย์นี้จะเปิดทุกวันพุธเวลา 17:00-19:00 ในสถานีรถไฟไทเปที่แสนจะสับสนวุ่นวาย และศูนย์นี้จะเลือกคนที่จะมองเห็น ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมองเห็น เราสามารถส่งของหรือจุดหมายไปให้กับคนที่เราไม่ได้พบอีกและสามารถได้รับจดหมายตอบกลับได้ เรื่องราวที่ผูกกันไปมาโยงไปถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อ 17 ปีที่แล้วในปี 1999 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 4 คน และบุคคลที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์นั้นก็มาส่งจดหมายหรือได้รับจดหมายในวันเดียวกัน เรื่องราวในหนังสือดำเนินไปในช่วงสั้น ๆ เพียงช่วงเวลาที่ศูนย์ฯ เปิด แต่ได้เล่าย้อนอดีตไปถึงเรื่องราวของแต่ละคนที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุในครั้งนั้น
.
เป็นหนังสือ 3 เล่มที่ต่ายจะแนะนำให้คนที่สูญเสียอ่าน อาจจะช่วยเยียวยาได้ หรือเราอาจจะอ่านไว้เพื่อเตรียมใจในอนาคตก็ได้ค่ะ
.
‘ความเสียใจ มีไว้เพื่อให้เรายิ่งทะนุถนอมปัจจุบัน’ จากหนังสือ ‘ศูนย์รับฝากความเสียใจ’
Commentaires