ต่ายได้มีโอกาสจัด session 'Happiness through Music' ซึ่งใช้ 2 ศาสตร์ คือ Music Therapy และ Life Coaching ซึ่ง objective ของ session คือ อยากให้ participant เพิ่มระดับความสุข และรู้วิธีการช่วยให้ตัวเองกลับเข้าสู่ภาวะสมดุลทางอารมณ์
.
ผู้ร่วมกิจกรรมส่วนมาไม่ได้เล่นดนตรี บางคนเล่นดนไม่ได้เลย ต่ายจึง set ground rules ตั้งแต่แรกว่า 'วันนี้เรามาทำเพื่อตัวเอง เรามาเข้าใจความสุขของตัวเราเอง โดยผ่านการเล่นดนตรี' ขอให้ทุกคนเปิดใจแล้วเล่นดนตรีออกมา.. ดังนั้นในกิจกรรมนี้จะไม่มีถูกผิด ไม่มีการตัดสิน มีแต่การชื่นชม เพื่อพัฒนาทักษะสำคัญ "การฟัง" ค่ะ
.
เราเริ่มกันด้วย silence activity คือ ให้ทุกคนเงียบเพื่อ"ฟัง"เสียงของตัวเอง ให้สังเกตสภาวะอารมณ์ของตัวเอง เป็น ice breaking ก่อนเข้ากิจกรรมการเล่นดนตรีค่ะ
.
จากนั้นก็ลองเริ่มเล่นเครื่องดนตรีชิ้นแรกกัน คือ กลอง โดยเราเล่นกลองในรูปแบบของการสื่อสารผ่านการตีกลองค่ะ
.
Music therapy สำหรับ session นี้ ออกแบบมาสำหรับคนที่ไม่ป่วยค่ะ เพื่อช่วยปรับสภาวะอารมณ์ หลายครั้งที่เราได้ยินคำว่า therapy เราจะเห็นภาพคนป่วยและนักบำบัด และ ดนตรีบำบัดใน session นี้ก็ไม่ได้มีนักบำบัดมาเล่นดนตรีให้ฟัง แต่จะเป็น participant เองที่ได้เล่นดนตรีให้ตัวเอง
.
กิจกรรมการเล่นดนตรี สำหรับ session นี้ เมื่อได้ฟังดนตรีที่แต่ละคนเล่นออกมา ต่ายและหลายๆคนก็จะรู้สึกดีมากๆ ค่ะ ลืมไปเลยว่าหลายคนไม่เคยเล่นดนตรี เพราะมันเป็นการเล่นดนตรีออกมาจากหัวใจ แล้วเราก็รับรู้ได้ มันเหมือนเป็นการส่งพลังงานดี ๆ ให้กัน แล้วเราก็ชาร์จพลังที่ส่งมาไว้ค่ะ
.
หลังจากจบกิจกรรม ต่ายก็ได้รับ feedback ที่ดีค่ะ หลายคนมาพูดคุยเรื่องเครื่องดนตรี อยากจะเอาไปเล่นกับลูก บางคนอยากมาเรียนดนตรีกับต่าย แต่ตอนนี้ต่ายก็ไม่ได้สอนแล้วค่ะ แล้วก็มีหลายหน่วยงานสนใจให้ไปทำให้บ้างค่ะ
.
การประเมินก่อนหลังกิจกรรม พบว่ามีความสุขกันมากขึ้น ต่ายดีใจที่ได้ทำให้ระดับความสุขของเพื่อน ๆ เพิ่มขึ้นนะคะ ถ้ามีใครหรือหน่วยงานในสนใจ ติดต่อมาได้นะคะ จะไปจัดให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
Comments