top of page
  • เพจของโค้ชแม่ต่ายค่ะ
  • 9e582e788b549c8bc310958d8222048f_icon
Search

Ep.314 ภาษารักสำหรับเด็ก

Writer's picture: CoachTai MusicparentCoachTai Musicparent


ต่ายเคยรีวิวหนังสือ 5 Love Languages ไปแล้วค่ะ อันนั้นเป็นเล่มแรกที่ผู้แต่งเขียนออกมาเป็น version ภาษารักสำหรับผู้ใหญ่ซึ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์โดยเฉพาะความสัมพันธ์ในครอบครัว เล่มนี้เป็น version ภาษารักสำหรับเด็ก ซึ่งอ่านแล้วทำให้เราเข้าใจลูกมากขึ้น เพราะมีในหลายแง่มุมที่ความรู้สึกนึกคิดหรือการแสดงออกของเด็กจะไม่เหมือนผู้ใหญ่

.

โดยสรุปทั้งเด็กและผู้ใหญ่ (จริง ๆ แล้วก็หมายถึงเราทุกคนนี่ล่ะค่ะ) ก็ต้องการความรัก ในหนังสือใช้คำว่าเราต้องการความรักมาเติม love tank ของเรา ไม่ว่าเราจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวเราต่างก็ต้องการความรัก และถ้าหาก love tank เราพร่องไป เราจะมีการแสดงออกเรียกร้องหาความรักโดยที่ไม่รู้ตัว หลาย ๆ พฤติกรรมที่ไม่น่ารักของลูกเกิดจากการที่ love tank เค้าไม่เต็มค่ะ

.

และที่สำคัญคือ ลูกต้องการความรัก แบบ unconditional love คือความรักที่ไม่ได้ผูกไว้กับอะไร ไม่ใช่ว่าลูกเป็นเด็กดีพ่อแม่ถึงจะรักลูก แต่เราจะรักลูกไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไรก็ตามค่ะ unconditional love ไม่ใช่ความรักแบบตามใจทุกอย่างนะคะ เรารักเค้าแบบไม่มีเงื่อนไขแต่เราก็สามารถ discipline เค้าได้นะคะ เดี๋ยวเล่ารายละเอียดเรื่องนี้ให้ฟังต่อนะคะ

.

ซึ่งภาษารักมี 5 ภาษาแต่เราแต่ละคนจะมีภาษาหลักที่ใช้แล้วเราจะรู้สึกได้ถึงความรักอย่างรวดเร็ว ในทางกลับกันถ้าเราทำร้ายจิตใจด้วยภาษาหลักนั้นเราก็จะเจ็บปวดมากกว่าการใช้ภาษารักอื่น ๆ ค่ะ มาดูภาษารักทั้ง 5 กันค่ะว่ามีอะไรบ้าง

.

1.Physical Touch สำหรับเด็ก ๆ คือ การกอด หอม ลูบหัว ลูบหลัง ฯลฯ การเล่นเกมมวยปล้ำกันของพ่อลูกก็เป็น physical touch ค่ะ มีส่วนหนึ่งในหนังสือที่เขียนถึงคุณพ่อที่มีลูกสาววัยใกล้วัยรุ่น อาจจะเริ่มเขินที่จะแสดงความรักด้วยการสัมผัสลูกสาว ฝากบอกคุณพ่อไว้ว่าเรายังแสดงความรักกับลูกสาวได้ ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้ลูกสาวรู้จักแสดงออกอย่างเหมาะสมกับเพศตรงข้ามเมื่อเค้าโตขึ้นค่ะ

2.Word of Affirmation เด็ก ๆ ที่มีภาษารักนี้เป็นภาษาหลักจะชอบการชื่นชม ชอบการบอกรัก ซึ่งสามารถบอกด้วยคำพูดหรือใช้วิธีเขียนบอกก็ได้ค่ะ ในทางกลับกันถ้าเราดุว่าเด็กอย่างรุนแรง เด็กที่มีภาษารักนี้เป็นภาษาหลัก จะทำให้ love tank ของเค้าว่างเปล่าได้เร็วกว่า การบอกรัก I love you เราควรพูดเฉย ๆ ไม่ควรผูกมันไว้กับอย่างอื่น เช่น แม่รักลูกนะถ้าลูกเชื่อฟังแม่ เพราะมันจะกลายเป็น conditional love

3.Quality Time เวลาคุณภาพไม่ได้หมายถึงเราต้องให้เวลาเป็นชั่วโมงหรือต้องไปอยู่ด้วยกันในที่พิเศษนะคะ เป็นเวลาช่วงสั้น ๆ ที่เราจะสนใจจดจ่อลูกจริง ๆ ลูกสาวต่ายก็มี quality time เป็นภาษาหลัก คือ ถ้าเค้าเดินมาหาแม่ขอให้ดูอะไรของเค้าแล้วเราหยุดทุกอย่างละสายตาจากงานจากมือถือ มาตั้งใจดูของที่เค้าเอามาให้ดู บางทีแค่ 10 วินาทีเค้าก็พอใจแล้วค่ะ เค้ารู้ว่าแม่รักเค้าแบบ unconditional love โดยให้เวลาที่เค้าต้องการ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราต้องให้เวลาอย่างนี้ทุกครั้ง เช่น ถ้าต่ายประชุมอยู่ก็จะบอกเค้าว่าเดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมงแม่เสร็จแล้วจะไปหานะ แล้วก็อย่าลืมสัญญาทำงานเพลินนะคะ

.

การใช้ eye contact ก็เป็นส่วนในการให้ quality time เพราะลูกจะรู้ว่าการที่เค้าอยู่ในสายตาเราก็คือการที่เรา fully attention อยู่กับเค้าค่ะ อย่าใช้สายตาแต่เพียงเพื่อดุลูกนะคะ และถ้าเราลงโทษลูกด้วยการไม่สบตา เด็ก ๆ ที่มีภาษารักเป็นเวลาคุณภาพก้จะ hurt มากค่ะ

.

4.Gifts การให้ของขวัญ เหมือนจะง่ายนะคะ เราไปหาของอะไรมาให้ก็ได้ จริง ๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นของที่มีราคาอะไร เป็นของที่ประดิษฐ์เองก็ได้ค่ะ เวลาเราไปไหนแล้วเรานึกถึงลูกก็ซื้อของมาฝาก ในหนังสือมีเคสครอบครัวที่มีลูก 2 คน เวลาไปไหนมาคุณพ่อคุณแม่ก็จะซื้อของมาฝาก ลูกคนแรกจะตื่นเต้นดีใจมาก เอาไปเก็บไว้เป็นอย่างดี เพราะภาษาหลักคือการได้รับของขวัญ ส่วนคนที่สองก็จะขอบคุณ รับของไว้ แต่ไม่ได้ดีใจอะไรมาก เพราะภาษารักหลักของเค้าไม่ใช่ Gifts ค่ะ อันนี้คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องเสียใจนะคะถ้าเราเข้าใจว่าภาษารักของลูกเราคืออะไร แต่เราต้องระมัดระวัง ถ้าเรา misuse เช่น ให้เพื่อเป็นของรางวัล หรือเพื่อให้ทำอะไรบางอย่าง เด็ก ๆ อาจจะไม่ได้รับรู้ถึงความรักที่มาพร้อมกับของขวัญค่ะ

5.Act of Service การที่เราดูแล ทำงานบ้าน ช่วยลูกเรื่องการเรียน ภาษารักของเด็กบางคนคือการที่ได้รับการบริการ ตอนที่ลูกเรายังเล็กเราก็ช่วยเหลือลูกเพราะเค้ายังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่เมื่อเค้าโตขึ้นเราก็ต้องสอนให้เค้าช่วยเหลือตัวเองได้ รวมถึงสอนเรื่องจิตอาสาให้มีน้ำใจบริการคนอื่นด้วยค่ะ พ่อแม่บางคนอาจจะอยากให้ลูกใช้ชีวิตได้ด้วยตัวเองโดยพยายามไม่ช่วยลูกเลย แม้ว่าลูกจะร้องขอ (บางทีคืออ้อน) ถ้าลูกมีภาษารักคือ Act of Service แล้วไม่ได้รับการตอบสนองอาจจะไปทำให้ love tank เค้าพร่องได้นะคะ

.

ถ้าเราอยากรู้ว่าภาษารักของลูกเราคืออะไรต้องทำอย่างไร อย่างแรกคือลองสังเกตค่ะ ถ้าเป็นเด็กอายุ 8 ขวบหรือต่ำกว่าแนะนำให้ใช้การสังเกตค่ะ ถ้าเด็ก 9-12 ปีจะมี online quiz สำหรับเด็ก และมี online quiz สำหรับวัยรุ่นค่ะ ตาม link ด้านล่างค่ะ

หรือเราสามารถถามลูกได้โดยตรงค่ะ ลูกรู้สึกความรักของพ่อ/แม่ไหม ลองสังเกตจากคำตอบ ถ้ารู้ตอบว่ารู้สิ ก็แม่บอกรักทุกวัน อันนี้น่าจะเป็น Word of Affirmation ถ้าลูกบอกว่ารู้ได้จากการที่แม่กอดเค้าทุกวัน อันนี้ก็เดาได้ว่า Physical Touch

.

ส่วนต่ายเคยถามลูก ลูกตอบว่ารู้ว่าแม่รัก เพราะแม่เป็นแม่ไง ไปต่อไม่ถูกเลยค่ะว่าภาษาไหน -_- เลยต้องใช้วิธีสังเกตเอาค่ะ

.

ในหนังสือเล่มนี้ยังมีส่วนที่สำคัญในการเลี้ยงลูก เรื่องการ discipline ลูก และการจัดการความโกรธของเราที่จะมาเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกได้อย่างไร ติดตามต่อ Ep หน้านะคะ

Comments


bottom of page