top of page
Search
  • Writer's pictureCoachTai Musicparent

Ep.313 Sound Healing



ต่ายได้มีโอกาสไปเข้า Sound Healing session วันนี้อยากมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังค่ะ เริ่มต้นจาก sound healing คืออะไร เป็นการบำบัดโดยใช้เสียงค่ะ sound healing จะมี 2 ลักษณะ อันแรกที่ต่ายได้ไปลองคือ ใช้ขันทิเบต เสียงจะนุ่มทุ้มลักษณะตามในรูปเลยค่ะ ส่วนอีกแบบจะใช้ crystal bow ลักษณะเสียงจะแหลมกังวาน มีความ feminine กว่าค่ะ

.

สำหรับประสบการณ์ของต่ายเป็นการรับพลังงานจากขันทิเบตแบบกลุ่มประมาณ 1 ชั่วโมง (session สามารถเป็น 1:1 หรือ กลุ่มก็ได้ค่ะ) ใน session ทุกคนจะนอนราบกับพื้น หันศีรษะเข้าหาพื้นเพื่อรับพลังงานจากขัน คุณครูจะมีการตีขันใบต่าง ๆ และมีให้เราเปล่งเสียงตาม ซึ่งต่ายรับรู้ได้ทั้งเสียงของครู เสียงของเพื่อน และแรงสั่นสะเทือนที่มาจากพื้น

.

สำหรับต่ายเป็น 1 ชั่วโมงที่เราได้ผ่อนคลาย อยู่กับตัวเอง เข้าสู่ภาวะ trance เป็นบางช่วง เพื่อบางคนผ่อนคลายมากหลับไปเลยก็มีค่ะ หลังจากนั้นคุณครูก็สาธิตการบำบัดต่าง ๆ เช่น การปรับอารมณ์ การบรรเทาอาการปวดเมื่อย ต่ายได้ลองการบำบัดอาการปวดเมื่อย มีการนำขันมาวางตรงที่ปวดแล้วใช้ไม้ตีวน ๆ รอบขัน ส่วนไหนที่ปวดมากไม่มีอาการสั่นสะเทือนออกมาเลยค่ะ เหมือนกล้ามเนื้อดูดซับพลังงานจากขันไว้หมด ส่วนที่ไม่ปวดมากเพื่อนที่นั่งใกล้ ๆ ยังรู้สึกได้ถึงพลังสั่นสะเทือนค่ะ

.

หลังจากเข้า session คืนนั้นก็หลับสบายค่ะ ปกติต่ายจะมีตื่นตอนกลางคืน แล้วจะนอนหลับต่อยาก คืนนั้นก็หลับต่อได้ง่าย ได้หลับเต็มอิ่มตื่นมาสดชื่นพร้อมทำงานแต่เช้าเลยค่ะ ซึ่งครูบิ๊กก็บอกว่าได้ feedback จากหลายคนว่าช่วยเรื่องการนอนหลับค่ะ

.

Sound healing ต่างกับ Music Therapy อย่างไร ทั้งสองอย่างใช้เสียงในการบำบัดเหมือนกัน สำหรับขันทิเบตที่ใช้ใน sound heal มีแหล่งกำเนิดเสียงเดียวแต่มีขันหลายใบ (ซึ่งขันแต่ละใบก็จะมีเสียงเหมือนโน้ต โด เร มี ที่แตกต่างกัน) ขณะที่ Music Therapy จะมีแหล่งกำเนิดเสียงที่หลากหลายจากเครื่องดนตรีหลายชนิด ขันทิเบตจะปล่อยพลังทั้งเสียงและแรงสั่นสะเทือนในระดับที่ส่งผลต่อโมเลกุลของน้ำในร่างกาย ซึ่งใช้ความถี่ที่แตกต่างกันเยียวยาศูนย์พลังงาน (จักระ) ต่าง ๆ ในร่างกาย

.

ถ้าหากสนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bangkoksoundhealing.com/

Comments


bottom of page