ต่ายได้มีโอกาสไปเข้าคอร์สจริยศิลป์ ซึ่งจัดโดยสถาบันอาศรมศิลป์ ซึ่งเป็นการฝึกสติ ฝึกสมาธิ และฝึกการอยู่กับปัจจุบันขณะ และฝึกตามรู้สภาวะจิตของตนเองผ่านการทำงานจิตกรรมไทย จึงนึกขึ้นมาได้ว่าเราก็ฝึกสติผ่านการซ้อมดนตรีอยู่เป็นประจำ
.
เทคนิคที่ใช้แล้วได้ผลกับตัวเอง คือ การปิดผัสสะ (ประสาทสัมผัส) ทางการมองเห็น คือ หลับตาแล้วเล่นโดยใช้หูฟังอย่างตั้งใจ
.
เพลงท่อนที่ยาก ๆ เล่นซ้ำ ๆ มาเป็นร้อย ๆ ครั้งก็ยังเล่นไม่ได้ เล่นจนกล้ามเนื้อนิ้วนี่อยู่หมวดออโต้แล้ว ไม่ต้องคิด นิ้วจำได้ว่าจากโน้ตนี้แล้วไปโน้ตไหน ครั้งแรกที่ลองหลับตาแล้วเล่น ท่อนนี้ที่ซ้อมมาเป็นเดือนแล้วเล่นไม่ได้ ก็สามารถเล่นได้ภายในไม่ถึงชั่วโมงค่ะ
.
เราสามารถปฏิบัติธรรมได้ทุกขณะค่ะ เคยถามพระอาจารย์ ท่านแนะนำว่าเราปฏิบัติธรรมโดยฝึกมีสติ รู้เท่าทันจิตได้ตลอดเวลา ไม่ต้องรอหาเวลาไปเข้าคอร์สปฏิบัติธรรม สำหรับต่ายการซ้อมดนตรี คือ การฝึกให้มีสติกับสิ่งที่ทำ พอใจเราฟุ้งไปคิดเรื่องอื่นเมื่อไหร่ ก็จะเล่นผิด
.
เพิ่มเติม learning ที่ได้จากการเข้าคอร์สจริยศิลป์ค่ะ นอกจากการได้ฝึกดูจิตและอารมณ์ของตัวเองแล้ว ยังได้รู้จักคำว่า 'ตั้งใจอย่างพอดี' คือ ถ้าเราตั้งใจมากเกินไป มันจะเครียดและเกร็งแล้วทำให้งานออกมาไม่สวยดังใจค่ะ
.
การได้มาเข้าคอร์สนี้ก็เหมือนได้มา recharge และ sharpen the saw ให้ตัวเองค่ะ
Comments