หนังสือเล่มนี้น่าสนใจตรงที่คนเขียนเป็นผู้สอนพนักงาน (แคสต์) ใน Disneyland และ Disneysea ที่ญี่ปุ่น ทำอย่างไรให้แคสต์สามารถบริการได้ราวกับมีเวทมนตร์เหมือนเราอยู่ในดินแดนในฝันของเราจริงๆ หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบ ต่ายพบว่าเราสามารถนำเวทมนตร์เหล่านี้มาปรับใช้กับการเลี้ยงลูกได้ค่ะ
.
ให้เราทักทายคนอื่นก่อนเสมอ เพื่อแค่มองตาอีกฝ่ายและยิ้มแล้วเอ่ยทักทาย ‘สวัสดี’ จะช่วยทำลายกำแพงในใจทำให้คนอื่นเปิดใจให้เรา การยิ้มช่วยสร้างความประทับใจแรกพบ และลองคิดแบบดิสนีย์ว่า ทุกคนรอบข้างเป็นแขก VIP
.
เวลาทุกข์ใจให้ลองคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์ เจ้าหญิงดิสนีย์ทุกคนล้วนเป็นผู้หญิงที่พึ่งพาตัวเอง ไม่ได้รอแต่ให้เจ้าชายมาช่วยนะคะ ซินเดอเรลล่าเป็นหญิงสาวผู้เข้มแข็งที่กล้าเผชิญหน้าต่อโชคชะตาและรู้จักปรับตัว เอเรียลจาก Little Mermaid ก็พยายามต่อสู้กับบททดสอบเพื่อจะได้สมหวังในความรัก เรื่องนี้เป็นตัวอย่างให้เด็กๆทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่โดยไม่หวังพึ่งคนอื่น
.
เมื่อรู้สึกไม่สบายใจ ให้ออกห่างจากสิ่งที่ทำให้รู้สึกแบบนั้น คนเราจะโกรธสุดๆแค่ 6 วินาทีเท่านั้น เมื่อเริ่มรู้สึกว่าควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ให้หายใจเข้าออกลึกๆก็จะช่วยให้สงบจิตใจลงได้ ลองสูดหายใจเข้าลึกๆทางจมูก แล้วค่อยๆปล่อยลมหายใจออกทางปากดูนะคะ
.
ลองพูดเลียนเสียงมิกกี้เมาส์โดยพูดเสียงสูงกว่าปกติ 1 ระดับจะทำให้ผู้ฟังรู้สึกสบายใจ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือวิธีที่ผู้ใหญ่พูดกับเด็กทารกมักจะพูดแบบ ‘motherese’ เป็นการพูดเสียงสูงโดยอัตโนมัติซึ่งเกิดขึ้นในแทบทุกภาษาและวัฒนธรรม ในทางกลับกันการใช้เสียงต่ำเหมาะสำหรับการโน้มน้าวใจหรือสร้างความไว้วางใจ
.
‘สนุกกับการใช้ชีวิต’ เวทมนตร์แห่งการใส่ใจจะช่วยให้ใช้ชีวิตได้อย่างสนุกสนาน และคนที่สนุกกับสิ่งที่ทำก็จะเปล่งประกายออกมาค่ะ และการใส่ใจจะทำให้ทั้งตัวเองและคนรอบข้างมีความสุขเป็นเวทมนตร์ที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นค่ะ
.
หนังสือเล่มนี้เล่าถึงเวทมนตร์ที่ดิสนีย์ที่ทำให้เกสต์ประทับใจและอยากกลับไปอีกค่ะ
.
สำหรับ Ep หน้าในหนังสือเล่มนี้มี chapter นึงชื่อ วิธีสื่อสารที่ช่วยให้คนรอบข้างยิ้มโดยอัตโนมัติ น่าสนใจมากค่ะเลยนำมาเขียนแยกเป็นอีก Ep นะคะ รอติดตามกันนะคะ
Comentários