ความโกรธ เป็นธรรมชาติของมนุษย์ค่ะ เราทุกคนต้องเคยโกรธและถูกโกรธ แต่หลายคนรู้สึกไม่ดี ทำยังไงดีไม่ชอบความโกรธ ไม่อยากโกรธ (อันนี้มักจะคิดได้ตอนที่โกรธไปแล้ว แล้วมันมี consequence) วันนี้มารู้จักวิธีการจัดการความโกรธกันค่ะ
.
การจัดการความโกรธ (anger management) ไม่ใช่การทำให้ไม่โกรธ หรือการไม่แสดงความโกรธออกมานะคะ การโกรธไม่ใช่สิ่งเลวร้าย เมื่อทะเลาะกันหรือถูกใครเดินชน การโกรธเป็นกลไกป้องกันตัวเอง อารมณ์โกรธเป็นความรู้สึกที่สำคัญ เพราะฉะนั้นเมื่อเริ่มโกรธก็โกรธไปเถอะ แต่ไม่ใช่โกรธไปหมดทุกอย่าง อยากให้เลือกโกรธเฉพาะที่จำเป็น
.
จากนั้นสอนเรื่อง กฎ 6 วินาที เมื่อความโกรธนำไปสู่การกระทำ สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุด คือ การกระทำที่ไม่ได้ยั้งคิด ความโคแบบไม่ยั้งคิดที่ต้องระงับมันไว้อย่างเต็มกำลังนั้นจะปรากฏขึ้นภายใน 6 วินาที เทคนิคที่ช่วยให้รอดพ้น 6 วินาทีนี้ไปได้ คือ
1. หลังตาหรือเลี่ยงสายตาอีกฝ่าย แล้วนับ 6 5 4 3 2 1
2. มุ่งความสนใจไปที่สิ่งอื่นจนกว่าความโกรธจะยุติ เช่น มองภาพบนเสื้อยืดของอีกฝ่าย
3. นึกว่าตัวเรากับอีกฝ่ายมีประตูกั้นอยู่
4. สูดลมหายใจลึก ๆ รับรู้เสียงหายใจเข้าออกของเรา
5. ท่องคาถาเฉพาะของตนเองหรือร้องเพลงที่ชอบ
6. กอดอกเพื่อทำให้ตัวเล็กลงหรือนวดตัวเองไปด้วย
.
ที่บ้านตอนนี้พอมีใครเริ่มโกรธจะได้ยินเสียงนับถอยหลัง 6 5 4... คนที่โกรธก็จะรู้ตัวด้วยว่าตัวเองมีอารมณ์โกรธแล้วค่ะ
.
การจัดการความโกรธ ไม่ใช่การทำให้ไม่โกรธหรือสะกดความโกรธไว้นะคะ (ถ้าเก็บความโกรธไว้มาก ๆ อาจจะระเบิดออกมาวันนึง) แต่คือ การโกรธในสิ่งที่ควรโกรธ และอย่าโกรธในสิ่งที่ไม่จำเป็น ซึ่งจุดประสงค์ก็เพื่อ ไม่ให้เราเสียใจกับการโกรธ หรือไม่โกรธภายหลัง
.
การจัดการความโกรธที่เหมาะสม จะช่วยให้ความคิดที่ว่า ‘รู้งี้ไม่โกรธดีกว่า’ ลดลง เราจะให้ความสําคัญกับทั้งตัวเราและคนรอบข้าง และเราจะไม่หงุดหงิดและใช้เวลากับเรื่องสำคัญ
.
หนังสือ ‘รับมือกับลูกขี้โมโห’ เป็นหนังสือที่เขียนโดย คุณ Shoko Kanno เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน anger management ที่เดินทางไปทั่วประเทศญี่ปุ่นเพื่อจัดการอบรมเรื่อง anger management ให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หนังสือเล่มนี้นอกจากจะเล่า concept แล้ว ยังมีวิธีและแนะนำเครื่องมือให้เราไปจัด workshop สำหรับเด็ก ๆ ได้เองเลยค่ะ ซึ่งต่ายได้ลองนำไปสอนลูกแล้ว ลูก ๆ ก็สนุกและเข้าใจบทเรียนค่ะ
.
เริ่มจากการสอนลูกให้รู้จักอารมณ์ต่าง ๆ ค่ะ ให้ลูกว่าหน้าตัวเองที่แสดงความรู้สึก ณ ขณะนั้น และมีภาพหน้าอารมณ์ต่าง ๆ มาให้ลูกลองบอกว่าคืออารมณ์อะไร จากนั้นชวนคุยว่าเวลาโกรธทางร่างกายแสดงออกอย่างไรบ้าง เช่น ขมวดคิ้ว กำหมัด หน้าร้อนผ่าว ใจเต้นแรง เพื่อฝึกให้ลูกสามารถสังเกตตัวเองได้เวลาที่โกรธ
Comments