ถ้าเราลองนึกย้อนกลับไปตอนที่เราเป็นเด็กหรือวัยรุ่นนะคะ มีช่วงไหนในชีวิตที่เรารู้สึกว่าพ่อแม่ไม่รักบ้างไหมคะ ถ้ามีอยากชวนลองคิดว่าสถานการณ์มันเป็นอย่างไร แล้วความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นจากอะไร แล้วพอเราโตมีลูกแล้วเรายังมีความรู้สึกว่าพ่อแม่ไม่รักนี้อยู่หรือเปล่า . ต่ายว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่เราจะอารมณ์ดีตลอดเวลา ไม่เผลอส่งอารมณ์ลบไปยังคนรอบตัว และกับลูกเองก็เหมือนกัน คงมีบางโมเมนต์ที่เราก็ทำอะไรที่ลูกไม่ชอบออกไป แต่สำหรับต่ายทุกการกระทำที่เรามองว่ามันเป็นข้อผิดพลาดหรือเราเองก็ไม่ชอบมันเมื่อเวลาผ่านไปแล้วเราย้อนกลับมาดู เราสามารถซ่อมมันได้ค่ะ ถ้าเรามองความผิดพลาดนั้นเป็นการเรียนรู้ที่จะทำให้เราไม่พลาดซ้ำ ความรู้สึกลูกที่มันเสียไปแล้วมันอาจจะลบความรู้สึกนั้นออกไปไม่ได้ แต่เราก็ ‘ซ่อม’ ความสัมพันธ์นั้นได้ค่ะ . ต่ายชอบ concept ‘Love Bombing’ ในหนังสือ ‘เสียดายแย่ ถ้าพ่อแม่ไม่ได้อ่าน’ เป็นหนึ่งในวิธีการซ่อมความสัมพันธ์กับลูก ถ้าลูกถูกทิ้งไว้กลางสนามรบที่มีแต่การหาเรื่อง จับผิด หงุดหงิด เราจะซ่อมความสัมพันธ์นี้โดย Love Bombing คือ เราให้เวลาคุณภาพในแบบที่เราปรนเปรอความรักให้ลูก ให้ลูกอยู่กับเรา ทำกิจกรรมกับเราในแบบที่เค้าอยากทำในขอบเขตที่เรากำหนด (ก็ไม่ใช่ว่าลูกจะทำอะไรก็ได้ตามใจแบบจะดูจอ เล่นเกมทั้งวัน เราก็ไม่ได้ใช้เวลากับลูก) . ต่ายเลย apply concept นี้ กับ quality time ที่บ้าน เราไม่ได้มีเวลา ‘อยู่’ กับลูกจริง ๆ เยอะนะ สำหรับการอยู่กับลูกจริง ๆ ของต่าย คือ เราให้ความสนใจทั้งหมดกับเค้า บอกเค้าเลยแม่จะเล่นด้วยอยากเล่นอะไรให้บอกมาได้เลย (ฝึกความคิดสร้างสรรและความเป็นผู้นำ) แล้วเราก็เล่นตามกติกาที่เค้ากำหนด ไม่ใช่ในแบบที่เรากำหนด ที่สำคัญสำหรับต่ายคือต้องไม่เอามือถือเข้าไปในห้องนั้นเลย ไม่ใช่เล่น ๆ อยู่ แป๊บนะลูก แม่ขอตอบไลน์แป๊บ อันนี้เค้าก็จะรู้สึกว่าไลน์นี่สำคัญกว่าเค้า การให้ quality time แบบ อยู่ กับลูกจริง ๆ ช่วยสร้างและซ่อมความสัมพันธ์ ช่วยสร้าง self ให้ลูก ให้ลูกรู้ว่าเค้ามีตัวตนในสายตาเรา เค้าเป็นที่รักของเรา ในระหว่างที่เล่นนี้ก็อย่าลืมชื่นชมลูกตามความเหมาะสมเพื่อเพิ่ม self esteem ด้วย . ที่บ้านต่ายมีลูก 2 คน ต่ายลองจัดกิจกรรม quality time แยกกันแบบเต็มวัน 24 ชั่วโมงค่ะ ครั้งแรกพ่อไปกับพี่ แม่ไปกับน้อง ให้ลูกเลือกเลยค่ะอยากทำอะไรบ้าง อยากไปทานอะไร แยกแบบไม่เจอกันเลยค่ะ ถ้ามีกำลังจ่ายก็พาอีกคนไปค้างโรงแรมใกล้บ้านค่ะ หรืออย่างน้อยก็แยกห้องนอนกัน นอกจากเป็นกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ให้ลูกแล้ว เป็นช่วงเวลาที่เราและลูกสามารถคุยเรื่องที่เราอยากให้รู้กันแค่สองคน (ซึ่งเราก็ต้องเก็บเป็นความลับจริง ๆ นะคะ ถ้าลูกบอกว่าเป็นความลับระหว่างเราสองคน) . นาน ๆ ครั้งที่เราจะมีโอกาสทิ้งระเบิดความรักแบบนี้ ต่ายมองว่าไม่ได้เป็นการทำให้ลูกเหลิงหรือเสียนิสัย แต่เป็นการเติมความสัมพันธ์ทดแทนในช่วงเวลาที่เรายุ่งและไม่มีเวลาให้ลูก ลองนำไปปรับใช้ที่บ้านดูนะคะ
ขอบคุณภาพจาก iStock
Kommentarer