top of page
  • Writer's pictureCoachTai Musicparent

ต่ายได้รับคำถามว่า เวลาที่เราหงุดหงิดมีอารมณ์ลบ ๆ มันเกิดจากอะไร จากประสบการณ์ต่าย หลาย ๆ ครั้งที่พบเจอเหตุการณ์แบบนี้ มักเกิดจากความ “คาดหวัง”

.

เป็นธรรมดาของคนเราทุกคนที่จะมีความคาดหวังตลอดเวลา ตั้งแต่อยากให้ไปเขียวเร็ว ๆ ไปจนถึงอยากได้รับการเลื่อนขั้น

.

เมื่อมีความคาดหวังก็จะต้องตามมาด้วยอีก 2 หวัง คือ “สมหวัง” และ “ผิดหวัง” ถ้าหากว่าความคาดหวังเราได้รับการตอบสนอง เราก็จะสมหวัง ซึ่งเราก็จะมีอารมณ์บวกหรือเฉย ๆ ไร

.

ขณะที่ ถ้าหากว่าความคาดหวังของเราไม่ได้รับการตอบสนอง เราก็จะ “ผิดหวัง” และก็มักจะเกิดอารมณ์ลบไม่มากก็น้อย

.

ดังนั้นหากเราไม่อยากจัดการกับอารมณ์ลบที่เกิดขึ้น ก็ให้เราไปจัดการกับความคาดหวังของเราก่อน ถ้าเราไม่คาดหวังก็จะไม่มีทั้งผิดหวังและสมหวังค่ะ


เคยไหมคะที่คิดวน ๆ หาคำตอบให้ตัวเองไม่เจอ หรือคุยกับใครที่รู้สึกว่าวนไปวนมา ประเด็นมันอยู่ตรงไหน ต่ายมี 1 คำถาม ที่ช่วยให้ความวนนี้หายไปค่ะ

.

ใน session การโค้ชค่ะ สิ่งที่โค้ชมักจะทำตอนเริ่มต้นคือ จะหาหัวข้อหรือจุดมุ่งหมายในการคุยค่ะ เพื่อให้การคุยมีทิศทางและได้ผลลัพธ์

.

สำหรับต่ายในบทสนทนาทั่วไป ถ้ามีความรู้สึกว่าคุยแล้วไม่ไปไหน ต่ายมักจะชวนถามว่า ที่ชวนต่ายคุยนี้ อยากได้อะไร เหมือนช่วยให้เค้าได้ตระหนักว่า การคุยกันนี้เพื่ออะไร เราจะได้ไม่หลงประเด็นไปไกล

.

หรือในการทำงานโครงการใหม่หรือในการประชุม คำถามแรกที่ต่ายมักจะถามคือ objective คืออะไร คำถามนี้เพื่อให้ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน การทำงานหรือการพูดคุยจะได้ productive & effective ค่ะ

.

คำถามนี้ ต่ายว่าใช้ได้กับเกือบทุกสถานการณ์เลยค่ะ เช่น เพื่อนมาปรึกมาในมุมของการเงินครอบครัวว่าปีนึงเราควรไปเที่ยวกี่ครั้งดี ต่ายก็เลยตอบไปด้วยคำถามว่า การไปเที่ยวเพื่อจุดประสงค์อะไร เพื่อความสนุกสนาน เพื่อพักผ่อน หรือเพื่อเปิดประสบการณ์ให้ลูก

.

ถ้า objective เราชัด นอกจากจะตอบคำถามเพื่อนแล้ว การจัดทริปก็จะเป็นไปอย่างมีแนวทางด้วยค่ะ

.

เวลาที่มีสถานการณ์วน ๆ หรือยังหาคำตอบไม่เจอ ลองถามตัวเองถึง objective ของสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นะคะ อาจจะช่วยให้หาคำตอบเจอค่ะ





เคยอยู่กับใครแล้วรู้สึกพลังงานสดใสส่งมาหาเรา หรือในทางกลับกันอยู่กับใครแล้วรู้สึกอึดอัดไหมคะ จริง ๆ แล้วเราส่งพลังงานออกมาตลอดเวลา และเราก็รับพลังงานตลอดเวลา เพียงแต่ว่าเราจะ sensitive พอที่จะรับพลังงานที่ส่งออกมาจากคนอื่นได้หรือไม่ และคนรอบตัวเราจะรับพลังงานของเราได้หรือไม่

.

ดังนั้นการกระทำ สภาวะอารมณ์ของเราส่งผลต่อคนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ตัวเรา เราอ่านบรรยากาศกันบ้างไหมคะ เช่น เราเดินเข้าไปในห้องประชุม เราจะรับรู้ได้ไหมว่าบรรยากาศตอนนี้มันเป็นอย่างไร เป็นบรรยากาศที่ทุกคนไอเดียบรรเจิด ร่วมมือกันเป็นอย่างดี หรือบรรยากาศมาคุ ถ้าเราอ่านบรรยากาศออก แล้วเรา react อย่างไรคะ

.

เราทำตัวไปตามบรรยากาศ เช่น ถ้าบรรยากาศดูอึมครึม เราคงไม่ทำตัวร่าเริง ส่งความสดใสให้ทุกคน หรือว่าเราก็จะยืนหยัดเป็นตัวเรา ในบรรยากาศอึมครึม เราก็สามารถส่งพลังงานบวกเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศได้

.

คำตอบคงไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของเรา กาลเทศะ common sense etc. ซึ่ง กาลเทศะและ common sense ของแต่ละคนก็ไม่เท่ากันค่ะ เราตัดสินจากประสบการณ์เดิมของเรา ในขณะที่เราก็ถูกคนอื่นตัดสินเช่นกันค่ะ สำหรับต่ายถ้าเราทำอะไรแล้วไม่เดือดร้อนใครก็ทำได้ค่ะ หลายคนคิดมากจนไม่เป็นอันทำอะไรค่ะ

bottom of page